นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Policy of Seika Sangyo (Thailand) Co., Ltd.

บริษัทเซอิกะ ซังเกียว (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัทฯ”) ใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึง ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา และบุคลากรของบุคคลดังกล่าว ผู้สมัครงานของบริษัทฯ ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ และบุคคลที่บริษัทฯ ทำการติดต่อนอกเหนือจากบุคลากรของบริษัทฯ จึงจัดให้มีนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูล และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของเจ้าของข้อมูล การรักษาความลับและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ คำนึงถึงความชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทฯ จะดำเนินการอย่างจำกัดและเป็นไปเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ และตามบทบัญญัติของกฎหมาย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย อาจรวมถึง

  • ข้อมูลแสดงตัวตนของเจ้าของข้อมูล เช่น ชื่อและนามสกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เพศ อายุ ที่อยู่ รูปภาพ
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หมายเลขโทรสาร บัญชีไลน์
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เช่น อาชีพตำแหน่งงาน แผนกงาน ประวัติส่วนตัว ประวัติการจ้างงาน สถานที่ทำงาน
  • ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัว รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรมหรือวิชาชีพ สถานภาพทางทหาร
  • ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนและผลประโยชน์ เช่น ข้อมูลค่าจ้าง เงินเดือน ค่าตอบแทน และสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
  • ข้อมูลบัญชีและการทำธุรกรรม เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินค่าสินค้าและบริการของบริษัทฯ ข้อมูลบัตรเครดิตและ/หรือบัตรเดบิต บัญชีธนาคาร ตลอดจนรายละเอียดสินค้าของบริษัทฯที่เจ้าของข้อมูลได้ซื้อจากบริษัทฯ และเลขที่บัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน
  • ข้อมูลการตรวจสอบการเข้าสู่ระบบหรืออาคารสถานที่ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
  • ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโปรแกรมที่เจ้าของข้อมูลใช้เพื่อเข้าใช้งาน เช่น เลขที่อยู่ไอพี ประเภทของเบราว์เซอร์ ภาษา ระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชัน และประวัติการใช้งานเว็บไซต์ และข้อมูลเกี่ยวกับ Cookies
  • ข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจในสินค้าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็น หรือเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้บริการ ซื้อสินค้า หรือการติดต่อกับบริษัทฯ

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีเจตนาในการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหว ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เช่น ข้อมูลสุขภาพ ศาสนา เชื้อชาติ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ ความเชื่อทางการเมือง ความชอบทางเพศ เป็นต้น ดังนั้น หากในเอกสารที่ท่านนำส่งต่อบริษัทฯ ปรากฏข้อมูลดังกล่าว เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่ปรากฏข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตของท่าน ขอให้ท่านดำเนินการปกปิดข้อมูลดังกล่าว ก่อนนำส่ง อย่างไรก็ตาม หากท่านนำส่งเอกสารที่ปรากฏข้อมูลดังกล่าวต่อบริษัทฯ บริษัทฯ จะดำเนินการปกปิดหรือลบข้อมูลในส่วนดังกล่าว ก่อนดำเนินการในขั้นตอนอื่นต่อไป ทั้งนี้ หากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเป็นรายกรณี

วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคล

1) อาจได้รับจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง จากการติดต่อ ประสานงาน สมัครงาน และเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ

2) อาจได้รับจากบริษัทฯ และบริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทฯ มีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงบริษัทจัดหางาน และผู้ให้บริการอื่นๆ

3) อาจได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่องกับเจ้าของข้อมูล (เช่น ครอบครัว เพื่อน ผู้แนะนำ ผู้พักอาศัย ผู้เช่า เป็นต้น)

4) อาจได้รับจากลูกค้า คู่ค้า หรือผู้ให้บริการที่เป็นองค์กรธุรกิจ ในฐานะที่เจ้าของข้อมูลเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อ

5) อาจได้รับจากข้อมูลสาธารณะที่ท่าน หรือองค์กรของท่าน ประกาศในสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น เว็บไซต์องค์กรของท่าน หรือ Linked-in

โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ หรือจัดเก็บตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด (เช่น กฎหมายภาษีอากร กฎหมายการบัญชี กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เป็นต้น) หรือตามอายุความ หรือตามที่หน่วยงานของรัฐกำหนด โดยทั่วไป ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลสูงสุดจะเท่ากับ 10 ปี ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาศัยฐานตามที่กฎหมายรองรับ ซึ่งได้แก่ ฐานหน้าที่ตามสัญญา ฐานผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย และฐานความยินยอม เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. กรณีผู้สมัครงาน บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    • เพื่อการพิจารณารับสมัครงาน และคัดเลือกบุคคลเข้ามาทำงานเพื่อเป็นพนักงานตามกฎเกณฑ์ของบริษัทฯ
    • เพื่อการติดต่อหรือการแจ้งผลการพิจารณารับสมัครงานไปยังผู้สมัครงาน
    • เพื่อการพิจารณาตำแหน่งงานอื่น ที่บริษัทฯ เห็นว่าเหมาะสมกับท่านที่อาจเปิดรับสมัครในอนาคต (ทั้งนี้ ผู้สมัครงานสามารถแจ้งความประสงค์ไม่ให้บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้)
    • เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องในการทำงานของพนักงานของบริษัทฯ และใช้ในการปรับปรุงการดำเนินการภายใน
    • เพื่อการรักษาความปลอดภัยของพื้นที่และทรัพย์สินภายในบริเวณสำนักงานของบริษัทฯ โดยการใช้กล้องวงจรปิด
  1. กรณีเป็นลูกค้า คู่ค้า หรือคู่สัญญาของบริษัทฯ และบุคลากรของบุคคลดังกล่าว (รวมเรียกว่า “คู่สัญญา”) บริษัทฯ อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับคู่สัญญาของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินการของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามสัญญา
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตามการให้บริการหลังการขาย
  • เพื่อทำการวิเคราะห์และปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ
  • เพื่อพิจารณาอนุมัติและการให้บริการผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ การส่งมอบผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการแก่คู่สัญญา การให้คำแนะนำและการจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ รวมถึงการดำเนินการใด ๆ ของบริษัทฯ ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของบริษัทฯ
  • เพื่อออกใบแจ้งหนี้ การออกใบกำกับภาษี การทำการเบิกจ่ายเงินและการรับเงิน รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ และการดำเนินการทางบัญชีของบริษัทฯ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารหรือประสานงานในการดำเนินงานของบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก คู่สัญญา รวมถึงบุคลากรของบุคคลดังกล่าว
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น การจดทะเบียนทางธุรกิจต่าง ๆ การจัดทำรายงานภาษียื่นต่อกรมสรรพากร การแจ้งขึ้นทะเบียนบุคลากรหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
  • เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของข้อมูล (ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลไม่ประสงค์จะรับการติดต่อเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว เจ้าของข้อมูลสามารถแจ้งความต้องการ ผ่านช่องทางที่บริษัทฯ กำหนดไว้ข้างท้าย)
  • เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย เช่น การสอบสวน การดำเนินคดี และการต่อสู้คดีในชั้นศาล
  • เพื่อการรักษาความปลอดภัยของพื้นที่และทรัพย์สินภายในบริเวณสำนักงานของบริษัทฯ โดยการใช้กล้องวงจรปิด
  1. กรณีเป็นผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ และบุคคลที่บริษัทฯ ทำการติดต่อ บริษัทฯ อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
  • เพื่อการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
  • เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการ
  • เพื่อการตอบข้อร้องเรียนตามที่เจ้าของข้อมูลระบุ
  • เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาจากเว็บไซต์ของบริษัทฯ จะถูกนำเสนอต่อเจ้าของข้อมูล และแสดงผลบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเจ้าของข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพื่อระบุตัวตนของผู้มาติดต่อ และเป็นประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย

บริษัทฯ จะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้ง เว้นแต่บริษัทฯ ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่และ/หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ไม่ว่ากรณีใดๆ หากเจ้าของข้อมูลไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการ หรือเข้าทำธุรกรรมใดๆ กับท่าน หรือดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลภายนอก

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคคลากรหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้

  1. บริษัทในเครือบริษัทเซอิกะ คอร์ปอเรชั่น
  2. ผู้ให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้จัดหางาน ผู้ให้บริการขนส่ง หรือบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หรืออาจเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของข้อมูลเอง
  3. ลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัทฯ ในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ผู้ที่ได้รับมอบหมายหรือผู้ติดต่อ
  4. หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานอื่นตามที่มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานประกันสังคม เป็นต้น
  5. คู่ค้า คู่สัญญาของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
  6. ที่ปรึกษาของบริษัทฯ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจประเมินภายนอก วิทยากร ทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมาย

การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปนอกประเทศไทย

ตามกิจกรรมต่างๆ ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนเกี่ยวกับท่านที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ ไปยังประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากบริษัทฯ เป็นบริษัทภายในเครือบริษัทเซอิกะ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น ซึ่งกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศญี่ปุ่นอาจไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย ประกอบกับ ในปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏการตัดสินเกี่ยวกับความเหมาะสมเพียงพอของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการโอนข้อมูลไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหมายความว่า หน่วยงานที่มีอำนาจของไทยไม่ถือว่ากฎหมายของประเทศญี่ปุ่นให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในระดับที่เหมาะสมเพียงพอ

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมเพียงพอตามพื้นฐานทางกฎหมาย บริษัทฯ จะโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้รับข้อมูลนอกประเทศไทยเฉพาะเมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่ใช้บังคับอื่นๆ อนุญาตให้กระทำได้

 

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  1. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้บริษัทฯเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ไม่ได้ให้ความยินยอม
  2. สิทธิที่จะขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  3. สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้บริษัทฯเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเมื่อใดก็ได้
  4. สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งเจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
  5. สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
    • กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยด้วยเหตุจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ
    • กรณีที่เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดโดยตรง
  6. สิทธิขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลด้วยเหตุบางประการ
  7. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในบางกรณี
  8. สิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ในกรณีที่บริษัทฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะดำเนินการแจ้งเรื่องร้องเรียนของท่านต่อบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ จัดการในเบื้องต้น ก่อนร้องเรียนต่อ สคส.

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล จึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งรวมถึง

  1. ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและอุปกรณ์ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยคำนึงถึงการใช้งานและความมั่นคงปลอดภัย
  2. การกำหนดเกี่ยวกับการอนุญาตหรือกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
  3. การบริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งานเพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาต และเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
  4. การจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูล Cookies

Cookies คือ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่จะถูกส่งไปยังเบราเซอร์ของเจ้าของข้อมูล เพื่อส่งข้อมูลกลับมายังเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทฯ ทุกครั้ง ที่เจ้าของข้อมูลได้เข้าถึงหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีการใช้ Cookies เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้

ชื่อ Cookie รายละเอียด ระยะเวลา ประเภท การแก้ไขการตั้งค่า
qtrans_front_language บันทึกการตั้งค่าภาษาของเว็บไซต์เพื่อช่วยให้เว็บไซต์แสดงภาษาตามที่ผู้ใช้งานเลือกได้ถูกต้องระหว่างเข้าใช้งาน 1 ปี Necessary Cookies ไม่สามารถแก้ไข
wfvt_2554471671 บันทึกข้อมูลตำแหน่ง (Location) และเขตเวลา (Timezone) ของผู้ใช้งานเว็บไซต์ เพื่อยืนยันตัวตนว่าผู้ใช้งานเว็บไซต์เป็นผู้ใช้งานจริง ไม่ได้เกิดจากการปลอมแปลงตำแหน่งและเขตเวลา โดยคุกกี้นี้ทำงานร่วมกับคุกกี้  Wordfence_verifiedHuman 30 นาที Necessary Cookies ไม่สามารถแก้ไข
Wordfence_verifiedHuman บันทึกว่าผู้ใช้งานเว็บไซต์เป็นมนุษย์ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงตัวตนในการเข้าถึงเว็บไซต์ 1 วัน Necessary Cookies ไม่สามารถแก้ไข

การเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้

บริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบถึง และ/หรือขอความยินยอมในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญใด ๆ ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

ช่องทางติดต่อ

หากท่านประสงค์จะติดต่อ หรือมีข้อสงสัย ข้อร้องเรียน หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ หรือกรณีที่พบว่ามีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปในทางที่ไม่ชอบ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ทางช่องทางดังต่อไปนี้

ผู้ประสานงาน        DPO Team (คุณพิทยา ฟูตระกูลพันธุ์)

ที่อยู่                         57 อาคาร ปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ชั้น 12 ห้อง 1210 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ประเทศไทย 10330

โทรศัพท์                 02-108-9818, 02-108-9819

อีเมล                       dpoteam@seika.co.th

 

นโยบายฉบับนี้ใช้บังคับเมื่อวันที่ วันที่ 15 สิงหาคม 2565